ปลุกประเทศไทย จากคดีเสือดำ - ป้าทุบรถ

ผมคิดว่าคดีป้าขวานและคดีเสือดำได้สร้างคุณูปการที่คล้ายกันแก่ประเทศไทยอย่างหนึ่งก็คือ ได้ถลกหนังหน้าข้าราชการระดับสูงจนถึงระดับกลางหลายสิบคนที่หมกเม็ดไม่ทำหน้าที่ของข้าราชการที่ดี แอบอิงมัวเมาในผลประโยชน์จากนักธุรกิจหรือผู้มีอิทธิพล

ผมไม่เชื่อว่าเรื่องบางเรื่องเช่นรุกที่ป่าสงวนนับพันไร่มาเป็นเวลาหลายปีนั้นเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ระดับอำเภอจนถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงระดับจังหวัดจะไม่รู้เรื่อง ที่ดินนับพันไร่พร้อมคฤหาสน์หรูหลายแห่งในเขตป่าสงวนไม่มีทางหรอกครับที่จะซ่อนได้เหมือนที่ดินผืนน้อยในกางเกงใน

ผมไม่เชื่อว่าเรื่องของตลาดเถื่อนหลายตลาด เรื่องการฮุบบ้านเลขที่ของคนอื่นเอาไปเป็นบ้านเลขที่ของตลาด และคำสั่งศาลที่มีออกมาแล้วหลายปี เรื่องจะไม่ถึงเจ้าหน้าที่เขตระดับสูงและคนที่มีอำนาจสั่งการใน กทม.

ผมไม่เชื่อว่าการข่าวของตำรวจแต่ละท้องที่จะไม่รู้ว่าบ่อนใหญ่นั้นอยู่ที่ไหน ใครเป็นเจ้าของ ตำรวจคนไหนมีส่วนเกี่ยวข้อง เรื่องนี้ไม่ต่างกับที่ผู้ชายเกือบทุกคนจะรู้ว่าจะสถานบริการทางเพศใกล้บ้านที่สุดนั้นอยู่ที่ไหนบ้างภายในเดือนแรกที่ย้ายบ้านไปอยู่ แต่ตำรวจในท้องที่อยู่มาหลายปีกลับไม่รู้สักที่

ผมบอกได้เลยนะครับถ้าเอาจริงๆ คดีแบบนี้หลักฐานชัดเจนขนาดนี้ มาตรา 157 "ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต" นั้นสามารถลากคอข้าราชการที่เกียร์ว่างหรือเกียร์ถอยหลังเข้าตะรางได้เป็นฝูงเลยทีเดียว

ประเทศไทยนั้นบอบช้ำจากนักการเมืองเลวมาไม่ใช่น้อย และบอบช้ำอย่างแสนสาหัสจากข้าราชการเลวพวกนี้มาในระดับความเสียหายรวมแล้วไม่ต่างกันเลย

แต่หลายสิบปีที่ผ่านมา ไม่มีสักรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งกล้าแตะต้องผู้มีอิธิพลเหล่านี้น จนกระทั่งถึงยุคของรัฐบาลนี้ที่ไม่แคร์คะแนนเสียง เรื่องถึงถูกขุดขึ้นมาทีละเรื่อง ทีละเรื่อง ทีละเรื่อง......

หลายปีที่ผ่านมาไม่มีสื่อใหญ่สักสื่อ สื่อมวลชนที่กล้าขุดคุ้ยเรื่องพวกนี้จนกระทั่งถึงยุคโลกโซเชียลยุคนี้ที่สังคมไม่ต้องง้อสำนักข่าวอีกต่อไป ทุกคนสามารถเป็นผู้กระจายข่าวได้ เรื่องแบบนี้จึงถูกโลกโซเชียลเปิดโปงขึ้นมาทีละเรื่อง ทีละเรื่องทีละเรื่อง.....

ผมบอกได้เลยว่าถึงวันนี้คนไทยมอง นักการเมืองและสื่่อหลักสำนักต่างๆ นั้นคือส่วนเกินของสังคม คนส่วนมากคิดว่าพวกเราอยู่กันเองได้โดยไม่ต้องเลือกตั้งหรืออ่านข่าวที่ต้องพึ่งพาสื่อจากสำนักข่าวแบบเดิมๆ อีกต่อไปแล้ว ปล่อยให้คนพวกนี้แบกกล้องไปทำข่าวกระถางต้นไม้แตก ก้านธูปในทำเนียบ ดาราเตียงหัก กันต่อไปเถอะ

โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ใครตามความเปลี่ยนแปลไม่ทันปรับตัวไม่ได้

นอกจากจะโดนทิ้งไว้ข้างหลังแล้วยังอาจจะสูญพันธุ์เอาง่ายๆ

ความคิดเห็น